เป็นเรื่องราวของ ฮานะ นักศึกษาสาวที่ตกหลุมรัก “เขา” ซึ่งดูภายนอกเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งแต่ที่จริงแล้วเขานั้นเป็น “มนุษย์หมาป่า” ถึง
กระนั้นก็ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไป
ทั้งสองตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ต่อมาไม่นานพวกเขาก็มีลูก
โดยตั้งชื่อลูกสาวคนแรกว่า “ยูกิ” ที่แปลว่า “หิมะ” เพราะเธอเกิดในวันที่หิมะตก และลูกชายคนที่สองชื่อ “อาเมะ” ที่แปลว่าฝนเพราะเขาเกิดในวันที่ฝนตก
(Spoil)ถ้าใครไม่ต้องการทราบเนื้อเรื่องล่วงหน้ากรุณาข้ามส่วนนี้ไป
แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นเมื่อ“เขา” ผู้เป็นทั้งสามีและพ่อของลูกได้จากไปอย่างกะทันหัน ทำให้ฮานะ ต้องรับบทบาทในการเป็นsingle mom ที่
ต้องเลี้ยงลูกน้อยทั้งสองคนเพียงลำพัง
ซึ่งในระหว่างนั้นปัญหาต่างๆก็ได้ถาโถมเข้ามาอย่างหนักทั้งปัญหาด้านการเงิน
และเพราะการที่เด็กทั้งสองเป็น “เด็กพิเศษ” ทำ
ให้การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่เป็นเรื่องยากลำบากและในที่สุด ฮานะ
ก็ตัดสินใจพาลูกน้อยทั้งสองไปใช้ชีวิตที่ชนบทอันห่างใกลเพื่อปกปิดความลับ
เรื่องที่ลูกน้อยทั้งสองของเธอก็ได้รับสายเลือดของความเป็นมนุษย์หมาป่ามา
ด้วยเช่นกัน
ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ห้อมล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าป่าเขา
ที่นั่นเธอต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตใหม่ทั้งหมดและด้วยความช่วย
เหลือของคนในท้องถิ่นในที่สุดเธอก็สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมชนบทได้
และเมื่อวันเวลาผ่านไปเด็กน้อยทั้งสองก็ได้เติบโตขึ้นโดยที่ยูกิเติบโตเป็น
เด็กหญิงที่มีนิสัยสดใสร่าเริง
ผิดกับอาเมะที่ค่อนข้างจะเป็นคนขี้กลัวและเงียบขรึม
ในฤดูหนาววันหนึ่งขณะที่ ฮานะ ยูกิ และอาเมะ ออกไปวิ่งเล่นชมหิมะที่ชายป่า
อาเมะก็ได้ประสบอุบัติเหตุตกลงไปในแม่น้ำแต่เคราะห์ดีที่ยูกิเข้าช่วยเหลือ
ได้ทันเวลาและหลังจากวันนั้นอาเมะก็ได้เปลี่ยนไป
จากที่เคยกลัวและสับสนในสภาพลูกครึ่งหมาป่าของตนเองกลายเป็นมีความกล้าที่จะ
ยอมรับสภาพที่ตนเป็นและเริ่มเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตในแบบของหมาป่า ผิดกับ
ยูกิ
ที่เมื่อเริ่มเติบโตเป็นหญิงสาวกลับเริ่มรู้สึกอายสภาพพิเศษของตัวเองและ
เลือกที่จะปกปิดมันไว้จนกระทั่งวันหนึ่งเธอเผลอไปทำร้ายเพื่อนร่วมชั้นทำให้
เธอตัดสินใจที่จะไม่ยอมเปิดเผยสภาพหมาป่าอีกในที่สุด
ท้ายที่
สุดจุดพลิกผันครั้งใหญ่ในชีวิตของฮานะก็เกิดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อ
ลูกชายของเธอ
ตัดสินใจที่จะเลือกใช้ชีวิตตามวิถีของหมาป่าซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เธอกลัวมา
ตลอด
ในและวันที่เขาตัดสินใจที่จะเข้าไปใช้ชีวิตในพงไพรเธอตัดสินใจเข้าไปตามหา
เขาในป่าเพื่อหยุดยั้งเขา แต่ในท้ายที่สุดเมื่อนั่นเป็นการตัดสินใจของลูก
เธอก็ตัดสินใจปล่อยให้ลูกชายของเธอใช้ชีวิตในแบบที่เขาต้องการและส่งเขาไป
ด้วยรอยยิ้ม ส่วนยูกิเธอก็เลือกใช้ชีวิตในแบบของมนุษย์
โดยที่เริ่มต้นชีวิตในการเป็นเด็กสาวมัธยมและย้ายออกจากบ้านไป
ในขณะที่แม่ของเธอยังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่ชนบทและเฝ้ามองการใช้ชีวิต
ตามเส้นทางที่ลูกทั้งสองของเธอได้เลือกด้วยความรักต่อไป
Wolf Children เดินเรื่องโดยผ่านตัวละครหลัก 3 คน
ซึ่งก็ค่อนข้างเป็นไปอย่างเรียบง่ายตามสไตล์ที่เราจะสามารถพบได้บ่อยๆทั้งใน
ภาพยนตร์และการ์ตูนของญี่ปุ่น ถึงจะมีเรื่องราวของความเป็นแฟนตาซีอยู่บ้าง
แต่โดยแกนหลักของเรื่องแล้วเน้นไปที่เรื่องราวความสัมพันธ์ของครอบครัว
เราจะได้เห็นการใช้ชีวิตแบบ Single mom ของฮานะ
ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกของตนนั้นเป็น
“เด็กพิเศษ” ในตอนต้นเรื่องนั้นฮานะ เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย
ในเรื่องไม่ได้บอกต่อว่าเมื่อเธอตัดสินใจเลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกับ “เขา”
นั้นเธอยังศึกษาต่อหรือจบการศึกษาแล้ว
ซึ่งมันสะท้อนภาพสังคมของญี่ปุ่นซึ่งตัวผู้เขียนเองก็ไม่แน่ใจว่าเข้าใจได้
ถูกต้องรึเปล่า แต่จากที่เห็นจากทั้งซีรี่ย์
ภาพยนตร์และการ์ตูนที่มาจากประเทศนี้บทบาทของผู้หญิงส่วนมากเมื่อตกลงปลงใจ
ที่จะเริ่มชีวิตคู่แล้ว
มักจะผันตัวเองมาทำหน้าที่อยู่กับบ้านเพื่อดูแลครอบครัว
ซึ่งการที่ทั้งคู่ตัดสินใจเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่เมื่ออายุยังน้อย
และมีลูกในเวลาอันรวดเร็วนั้น
คงจะบอกไม่ได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือผิดแต่เมื่อเหตุการณ์ที่ไม่คาด
ฝันอย่างการจากไปอย่างกะทันหันของ “เขา”
นั้นส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดกับการดำเนินชีวิตของตัวฮานะและลูกๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเศรษฐกิจและสถานะความเป็นเด็กพิเศษเฉกเช่นเดียวกับ
“เขา” แน่นอนว่าเธอยังไม่ได้รู้จักเขามากพอ
เพราะทั้งเรื่องเราจะได้ยินฮานะย้ำตลอดว่าเธอไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับการ
ใช้ชีวิตที่ผ่านมาของ “เขา” เลย
การที่จะเลี้ยงดูลูกทั้งสองให้เติบโตขึ้นมาในแบบที่ควรจะเป็นได้นั้น
แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการลองผิดลองถูกและใช้สัญชาตญาณแห่งความเป็นแม่ล้วนๆ
เรื่องราวดำเนินผ่านไปด้วยความพยายามอย่างเต็มที่ในการทำหน้าที่แม่ของฮา
นะและความช่วยเหลือของหลายๆคน
ทำให้ในที่สุดเธอก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามาและได้ใช้ชีวิตกับลูกๆ
อย่างสงบสุขได้
เหตุการณ์กลับพลิกผันอีกครั้งเมื่อลูกน้อยทั้งสองเติบใหญ่ขึ้นและเริ่มที่จะ
ตัดสินใจเกี่ยวกับเส้นทางชีวิตของตนเอง
ในกรณีของยูกินั้นเธอเลือกที่จะใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์
ด้วยหลายปัจจัยดังที่ปรากฎในเรื่อง
ซึ่งแม่ของเธอก็เห็นด้วยเพราะว่าโลกที่ยูกิเลือกนั้นเป็นโลกที่ฮานะผู้เป็น
แม่นั้นรู้จักดี
ต่างจากกรณีของ อาเมะ
ที่เลือกที่จะใช้ชีวิตเยี่ยงหมาป่า
ซึ่งผู้เป็นแม่ได้พยายามที่จะขอร้องในทุกทางเพื่อให้เขาอยู่ในโลกของเธอ
โลกที่เธอรู้จัก โลกที่สามารถดูแลและปกป้องเขาได้ ต่อไปแต่ในท้ายที่สุด
เมื่อถึงเวลาที่เรียกว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในชีวิต อาเมะ
ตัดสินใจที่จะก้าวไปตามเส้นทางที่ตัวเองเลือก ตัวฮานะ
พยามยามที่จะยื้อแต่ในท้ายที่สุด ด้วยจิตสำนึกของความเป็นแม่
เธอก็เลือกที่จะปล่อยให้ลูกไป โดยที่เธอจะยังคอยอยู่ใกล้ๆ
ในจุดที่ลูกจะสามารถพบเธอได้เสมอที่บ้านกลางป่าหลังเล็กของเธอ
หลังจากที่ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว
แน่นอนว่าการ์ตูนเรื่องนี้มีเรื่องราวที่สวยงามน่าประทับใจมากมาย
โดยเฉพาะฉากที อาเมะ
ตัดสินใจที่จะจากไปพร้อมกับรอยยิ้มและสายตาของฮานะผู้เป็นแม่ซึ่งส่งออกไป
ด้วยความรักและความห่วงใย และฉากที่ผู้เป็นแม่เฝ้าฟังเสียงของลูกชาย
ที่อยู่ห่างไกลด้วยความรู้สึกยินดี
และใบหน้าเปี่ยมสุขกับวันที่ลูกสาวอย่างยูกิสำเร็จการศึกษา
ผู้เขียนมั่นใจว่าหลายๆคนจะประทับใจเกี่ยวกับเรื่องราวความสัมพันธ์ในครอบ
ครัวแบบนี้ และแนะนำให้หลายๆคนได้ดูเพราะถ้าวันหนึ่งคุณได้กลายเป็น
พ่อหรือแม่คนเมื่อไหร่
วันที่คุณจะต้องเฝ้ามองเส้นทางที่เค้าเลือกนั้นจะต้องมาถึงอย่างแน่นอน
และในบางครั้งเส้นทางที่เค้าเลือกอาจจะไม่ถูกใจคุณ
แต่ถ้ามันคือความสุขและความต้องการของลูกคุณคุณจะทำอย่างไร
จะยื้อไว้หรือจะปล่อยไปโดยใช้สัญชาตญาณและอนาคตเป็นเครื่องนำทาง ...
ไม่ได้เขียนอะไรยาวๆแบบนี้สักพักแล้ว เป็นงานที่ทำแล้วเพลิดเพลินจริงๆ
หวังว่าทุกคนที่เข้ามาอ่านจะชอบกันนะคะ
หรือใครมีอะไรจะแนะนำหรือเสนอมุมมองใหม่ๆก็เข้ามาลองคุยกันได้ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น